มูรินโญ่ ดวงตก เอฟเอ เตรียมสอบสวน เหตุใช้คำหยาบเป็นภาษาบ้านเกิด

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการชื่อดังทีมปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจถูกลงโทษจากทาง เอฟเอ อังกฤษ ได้หลังจากที่พบว่าเขาได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายเป็นภาษาโปรตุเกส
ในเกมที่ทีมปีศาจแดงเปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มูรินโญ่

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เตรียมสอบสวนจากคพูดของกุนซือรายนี้ที่พูดออกมาต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ ในเกมนัดแข้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล
ด้วยสกอร์ปรตู 3-2 ช่วงก่อนพักครึ่ง ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังเดินเข้าสู่อุโมงค์ข้างสนาม

สำหรับคำหยาบที่ มูรินโญ่ ใช้นั้นเป็นภาษาโปรตุเกส ซึ่งเป็นภาษาบ้านเกิดของเขา ทั้งนี้ เอฟเอ จะทำการเช็คฟุตเทจดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
และจากนั้นจะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาษาโปรตุเกส ก่อนจะพิจารณาตัดสินใจต่อไปว่าจะมีบทลงโทษต่อกุนซือผู้นี้อย่างไร

สำหรับ มูรินโญ่ ช่วงนี้ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันอย่างหนัก อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีปัญหากับลูกทีมอีกหลายคน จนมีประเด็นข่าวลือว่าเขาอาจถูกดีดปลดจากการเป็นกุนซื่อทีมดังปิศาจแดง
และด้วยฟอร์มอันย่ำแย่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ขณะที่ในเกมดังกล่าวช่วงพักครึ่ง ทีมปีศาจแดงก็ตามหลังอยู่ถึง 0-2 ทำให้เจ้าตัวอาจไม่สบอารมณ์จนเผลอพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกมาก็เป็นได้

สามปัจจัย ฉุดลิเวอร์พูลไม่ถึงแชมป์

มาถึงตอนนี้ก่อนจะเข้าเบรกทีมชาติต้องบอกเลยว่า แฟนลิเวอร์พูลที่เริ่มมีการติดแฮชแท็กคว่า จ่าฝูงหนาวมากนั้น ก็ต้องยอมรับว่าของเค้าดีจริงตอนนี้ เกมรุกโคตรโหด เกมรับพอได้ กลางสนามไล่บี้ ช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่ เรียกได้ว่า เกเก้น เพรสซิ่งที่เคยเห็นที่ดอร์ทมุนด์ ตอนนี้มาแล้วที่แอนฟิลด์ แต่กว่าจะไปถึงแชมป์ลีคได้ ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เป็นอุปสรรค และนี่คือตัวอย่างที่อาจจะต้องเจอ

อาการบาดเจ็บ ของนักเตะ

เรื่องแรกที่ถือว่าเป็นของแสลงสำหรับการเล่นเกมลีคที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ เรื่องของอาการบาดเจ็บที่ในพรีเมียร์ลีคมันอาจจะมาเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น แน่นอนว่าหากลิเวอร์พูลเจอโรคเดี้ยงเล่นงานกับนักเตะสำคัญอย่าง คูตี้ หรือ เฟอร์มีย์โน่ไป สมดุลย์ในทีมก็คงเสียไปไม่น้อยเลย ถ้าถึงตรงนั้นแล้วนักเตะทดแทนกันไม่ได้ก็มีสิทธิ์เป๋กันไปยาวๆได้เหมือนกัน

เรื่องของสภาพจิตใจ ของนักเตะ

ถัดจากเรื่องของร่างกาย ก็มาที่เรื่องของจิตใจกันบ้าง ตอนนี้ลิเวอร์พูลอาจจะกำลังยิ้มกริ่มกับการยืนจ่าฝูงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่เอาจริงตำแหน่งนี้มันก็จะมาพร้อมกับความกดดันที่มหาศาลขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหากเจอแซงไปก่อนแล้วต้องลงเล่นทีหลังกับภารกิจว่าต้องชนะให้ได้นี่ เป็นอะไรที่กดดันมากๆ หากอดทนได้ก็แล้วไป แต่หากจิตใจแตกซ่านก็คงเหมือนสเปอร์สในฤดูกาลที่แล้ว ที่มอบแชมป์ให้กับเลสเตอร์ไปซะอย่างนั้น

การแข่งขันแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

ปัจจัยสุดท้ายที่อาจจะส่งผลก็คือ เกมระดับนานาชาติช่วงเดือนมกราคม อย่างเกมแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพที่ทีมจะต้องเสียแกนหลักไปพร้อมกันทีเดียวสองคนคือ มาเน่ และ โจเอล มาติปที่ต้องไปลงให้กับทีมชาติของตัวเอง น่าสนใจว่าตอนนั้นลิเวอร์พูลจะทำอย่างไร แต่ถ้าหากผ่านสามข้อนี้ไปได้ เชื่อว่าแชมป์ลีคที่รอมานาน คงสมหวังกันสักที

เก็บตกประเด็นเกมซ้อมครั้งสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตอนนี้ข่าวแต่ละทีมคึกคักมาก นอกจากข่าวการซื้อขายนักเตะที่บอกเลยว่า แย่งกันไฟแล่บเลย แม้จะมีพิษเศรษฐกิจจากโควิท 19 เล่นงานอยู่บ้านก็ตามที แต่อีกมุมหนึ่งแต่ละทีมกำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายด้วยการซ้อมเสมือนจริงเพื่อเตรียมความพร้อมให้มากที่สุดในเกมแรกที่กำลังจะมากถึง อย่างแมนยูเองตอนนี้พวกเค้าก็ลงซ้อมแบบเต็มเกม 11 VS 11 กันแล้วมาเก็บตกกันบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจ

ฟอร์เมชั่นไม่เหมือนเดิม

ตอนแรกยอมรับว่าการกลับมาประจำการแบบเต็มอัตราศึก โซลชาร์ น่าจะปรับฟอร์เมชั่นมาเป็นท่าไม้ตายประจำตัวอย่าง 442 เดินหน้าบุกแหลกเพื่อให้ได้ประตู แต่ผิดคาดจากทั้งสองทีมที่แบ่งกันไม่มีแผนนี้เลย ทีมสีแดงใช้แผน 451 ส่วนทีมสีเหลืองใช้ฟอร์เมชั่น 352 เข้าใจว่าน่าจะเป็นฟอร์เมชั่นที่น่าจะหยิบมาใช้งานในช่วงเปิดลีคอีกครั้ง หรือไม่ก็สับขาหลอกหยิบ 442 ออกมาใช้ให้งงกันไป อันนี้ใช้เพื่อการซ้อมอย่างเดียว(หรือเปล่า)

ป็อกบา กับ บรูโน่ คนละทีม

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนคอยดูอยู่นั่นก็คือ บทบาทของป็อกบา หรือ บรูโน่ แฟร์นันเดส ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน จะลงเล่นพร้อมกันได้หรือไม่ จากที่ซ้อมโซลชาร์ แยกทั้งคู่อยู่คนละทีม มองมุมแรกเพื่อให้การซ้อมเข้มข้น สูสีกัน แต่มองอีกมุมแสดงว่าโซลชาร์มองว่าการเล่นของสองคนแตกต่างกัน เลยกำหนดลูกหาบให้แตกต่างกันด้วยเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เจอคู่ต่อสู้ไม่เหมือนกัน ป็อกบาจะมาแนวการวางบอลแนวลึก แล้วทิ้งให้แรชฟอร์ดไปเก็บบอลแดนหน้าเพื่อทำประตู ส่วนบรูโน่ จะเป็นการเล่นแบบคิลเลอร์พาสสั้นๆทะลุช่องให้กับ มาร์คซิยาล กับ เจมส์ ใช้ความเร็วทะลุช่องไป

หลังสาม หรือ หลังสี่

จากฟอร์เมชั่นที่เห็นมา ประเด็นเรื่องกองหลังน่าสนใจ ทีมสีแดงเลือกใช้ระบบหลังสี่ตัวตามมาตรฐาน แต่ สีเหลืองเลือกที่จะใช้หลังสามตัวแบบ 3 เซนเตอร์แบ็ค อันนี้น่าจะเป็นสูตรของ โซลชาร์ เพื่อเลือกใช้ตามสถานการณ์ จากรายชื่อในการซ้อมน่าเสียดายที่ อิ๊กฮาโล่ ยังไม่มีชื่อไม่งั้นการซ้อมน่าจะสมจริงกว่านี้ในตำแหน่งทีมสีแดงของแรชฟอร์ด