แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเกมลีคอันยากลำบากส่งท้ายปี

เดือนสุดท้ายของปีเดินทางมาถึงอีกครั้ง แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคิดถึงวันหยุดยาวตามเทศกาลต่างๆ โลกฟุตบอลเองก็เช่นกันเพราะจะมีหยุดเบรคหนีหนาวกันด้วย แต่พรีเมียร์ลีคกลับตรงกันข้าม เดือนธันวานี่บอกเลยว่าเตะกันสะบั้นหั่นแหลกมาก จะอยู่หรือไปก็ช่วงเวลาเดือนนี้แหละ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็เช่นกัน เดือนธันวาคมพวกเค้าจะเจอเกมลีคอันยากลำบากส่งท้ายปีด้วย
เปิดบ้านรับนายเก่า
เกมที่สองของเดือนธันวาบอกเลยว่า งานหนักทีเดียว พวกเค้าจะเปิดบ้านรับนายเก่าคนคุ้นเคยอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่กลับมาพร้อมกับทีมใหม่อย่างสเปอร์สที่ตอนนี้ฟอร์มร้อนแรงมาก แม้เกมรับยังไม่ดี แต่เกมรุกบอกเลยว่าคมมาก งานนี้ มูรินโญ่ จะทำหน้าอย่างไร หากสเปอร์สชนะ ทำเอาแฟนบอลอยากรู้จริงๆ
ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์
ถัดจากเกมเจอกับสเปอร์สไปเพียงแค่ 3 วัน พวกเค้าต้องเจอกับเกมยากระดับ 10 กะโหลก เมื่อต้องทำศึกผ่าเมืองเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ส่วนตัวแม้จะเป็นแฟนผีเองมองลงไปมุมไหนก็ไม่มีทางสู้กับเป๊ป และลูกทีมที่พร้อมจะลงล่าตาข่ายแมนยูให้ได้เพื่อกดดันลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตามศึกแห่งศักดิ์ศรีแม้จะมองว่าต่างแต่พอเสียงนกหวีดเริ่มผู้เล่นใส่กันเต็มที่ตลอดต้องดูว่าเกมนี้จะทำได้ดีแค่ไหนกัน
เปิดบ้านรับ นิวคาสเซิ่ล
วันที่ 27 ธันวาคม ก่อนสิ้นปี พวกเค้าจะได้เจองานยากอีกแล้ว คราวนี้เปิดบ้านรับ นิวคาสเซิ่ล ที่บอกเลยว่าตอนนี้ไม่ใช่ของง่ายอีกต่อไป เจอกันคราวที่แล้วคงรู้จักพิษสงของพี่น้องลองสต๊าฟกันไปอย่างดี มาเจอกันอีกครั้งต้องดูว่า โซลชาร์ จะแก้มือ หรือ ปล่อยให้เค้ามาย้ำอีกรอบหนึ่ง
นอกจากสามเกมนี้ เกมเปิดบ้านเจอเอฟเวอร์ตันก็ไม่ง่ายเลย ยิ่งถ้าหากเอฟเวอร์ตันเปลี่ยนนายใหม่แต่เป็นคนคุ้นเคยอย่าง เดวิด มอยส์ ตามข่าวจริง งานนี้บอกเลยว่า งานหยาบ สุดๆ เอฟเวอร์ตันแบบมอยส์ เล่นเขี้ยวลากดินสุดๆ

“โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” ยืนยันพร้อมอยู่กับ เชลซี เพื่อพิสูจน์ฝีเท้าต่อ


นักเตะ”โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” หัวหอกร่างยักษ์ของ สิงห์บลูส์-เชลซี ประกาศชัดว่าพร้อมอยู่เพื่อพิสูจน์ตัวเองกับทีมต่อไป พร้อมย้ำตนเป็นคนที่พร้อมสู้อยู่แล้ว แม้ภายในทัพ “สิงห์บลูส์” จะอุดมไปด้วยนักเตะ
ชั้นยอดก็ตาม โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ เชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยังยืนยันว่า ไม่คิดถึงเรื่องย้ายทีม และต้องการที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมตัวจริงของกุนซือ
เมาริซิโอ ซาร์รี่ ให้ได้ ถึงแม้ปัจจุบันจะตกเป็นตัวเลือกรองจาก อัลบาโร่ โมราต้า หัวหอกชาวสแปนิช ก็ตาม

“โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” เป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกนัดที่ “สิงห์บลูส์” ทำได้แค่เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริจด์ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 เมื่อที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นคนทำประตูชัยพาทีมบุกเชือด
บาเต้ โบริซอฟ 1-0 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อสามวันก่อนหน้า

ด้วยฤดูกาลนี้ ชิรูด์ ได้เริ่มต้นเป็นตัวจริงแค่ 4 จาก 12 เกมที่ลงเล่นและทำได้แค่ประตูเดียว ทำให้มีกระแสข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจจะพิจารณาถึงเรื่องย้ายทีม อย่างไรก็ตามล่าสุด หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสวัย 32 ปี
ได้ประกาศชัดว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีอยู่ในหัว อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากเรื่องของความสามารถในการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชิรูด์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘ทัศนคติ’ ของเขาที่น่ายกย่อง

“ผมต้องคิดถึงเรื่องย้ายทีมเพื่อรักษาตำแหน่งในทีมชาติหรือเปล่าน่ะเหรอ? ผมรู้สึกเหมือนกับว่า เราได้กลับไปอยู่ในจุดเดิมเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ผมถูกถามคำถามเดียวกันนี้ก่อนถึงศึก เวิลด์ คัพ
ทุกวันนี้ผมรู้สึกเฉย ๆ และมีความสุขกับตำแหน่งแชมป์โลกที่ได้มา ผมไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปตกอยู่ภายใต้ความกดดัน” รูปร่างสูงใหญ่ของเขา ความแข็งแกร่ง และการสัมผัสบอล รวมถึงประสบการณ์
ของชิรูด์กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกมรุกของฝรั่งเศสที่กระจัดกระจายในช่วงก่อนหน้านี้กลับมารวบรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้อีกครั้ง

“แน่นอนว่า ผมเป็นคนที่ชอบการแข่งขันและผมอยากจะลงเล่นมากกว่านี้ แต่ผมกำลังเล่นอยู่กับสโมสรใหญ่และมีนักเตะเก่ง ๆ มากมาย ผมพร้อมที่จะสู้ และสำหรับตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาคิดถึงเรื่องย้ายทีม
ไม่ต้องมาคาดหวังหรอกว่า ผมจะยอมแพ้” ชิรูด์ เปิดใจกับ “เทเลฟุต” สื่อดังเมืองน้ำหอม

มูรินโญ่ ดวงตก เอฟเอ เตรียมสอบสวน เหตุใช้คำหยาบเป็นภาษาบ้านเกิด

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการชื่อดังทีมปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจถูกลงโทษจากทาง เอฟเอ อังกฤษ ได้หลังจากที่พบว่าเขาได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายเป็นภาษาโปรตุเกส
ในเกมที่ทีมปีศาจแดงเปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มูรินโญ่

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เตรียมสอบสวนจากคพูดของกุนซือรายนี้ที่พูดออกมาต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ ในเกมนัดแข้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล
ด้วยสกอร์ปรตู 3-2 ช่วงก่อนพักครึ่ง ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังเดินเข้าสู่อุโมงค์ข้างสนาม

สำหรับคำหยาบที่ มูรินโญ่ ใช้นั้นเป็นภาษาโปรตุเกส ซึ่งเป็นภาษาบ้านเกิดของเขา ทั้งนี้ เอฟเอ จะทำการเช็คฟุตเทจดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
และจากนั้นจะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาษาโปรตุเกส ก่อนจะพิจารณาตัดสินใจต่อไปว่าจะมีบทลงโทษต่อกุนซือผู้นี้อย่างไร

สำหรับ มูรินโญ่ ช่วงนี้ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันอย่างหนัก อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีปัญหากับลูกทีมอีกหลายคน จนมีประเด็นข่าวลือว่าเขาอาจถูกดีดปลดจากการเป็นกุนซื่อทีมดังปิศาจแดง
และด้วยฟอร์มอันย่ำแย่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ขณะที่ในเกมดังกล่าวช่วงพักครึ่ง ทีมปีศาจแดงก็ตามหลังอยู่ถึง 0-2 ทำให้เจ้าตัวอาจไม่สบอารมณ์จนเผลอพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกมาก็เป็นได้

สามปัจจัย ฉุดลิเวอร์พูลไม่ถึงแชมป์

มาถึงตอนนี้ก่อนจะเข้าเบรกทีมชาติต้องบอกเลยว่า แฟนลิเวอร์พูลที่เริ่มมีการติดแฮชแท็กคว่า จ่าฝูงหนาวมากนั้น ก็ต้องยอมรับว่าของเค้าดีจริงตอนนี้ เกมรุกโคตรโหด เกมรับพอได้ กลางสนามไล่บี้ ช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่ เรียกได้ว่า เกเก้น เพรสซิ่งที่เคยเห็นที่ดอร์ทมุนด์ ตอนนี้มาแล้วที่แอนฟิลด์ แต่กว่าจะไปถึงแชมป์ลีคได้ ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เป็นอุปสรรค และนี่คือตัวอย่างที่อาจจะต้องเจอ

อาการบาดเจ็บ ของนักเตะ

เรื่องแรกที่ถือว่าเป็นของแสลงสำหรับการเล่นเกมลีคที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ เรื่องของอาการบาดเจ็บที่ในพรีเมียร์ลีคมันอาจจะมาเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น แน่นอนว่าหากลิเวอร์พูลเจอโรคเดี้ยงเล่นงานกับนักเตะสำคัญอย่าง คูตี้ หรือ เฟอร์มีย์โน่ไป สมดุลย์ในทีมก็คงเสียไปไม่น้อยเลย ถ้าถึงตรงนั้นแล้วนักเตะทดแทนกันไม่ได้ก็มีสิทธิ์เป๋กันไปยาวๆได้เหมือนกัน

เรื่องของสภาพจิตใจ ของนักเตะ

ถัดจากเรื่องของร่างกาย ก็มาที่เรื่องของจิตใจกันบ้าง ตอนนี้ลิเวอร์พูลอาจจะกำลังยิ้มกริ่มกับการยืนจ่าฝูงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่เอาจริงตำแหน่งนี้มันก็จะมาพร้อมกับความกดดันที่มหาศาลขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหากเจอแซงไปก่อนแล้วต้องลงเล่นทีหลังกับภารกิจว่าต้องชนะให้ได้นี่ เป็นอะไรที่กดดันมากๆ หากอดทนได้ก็แล้วไป แต่หากจิตใจแตกซ่านก็คงเหมือนสเปอร์สในฤดูกาลที่แล้ว ที่มอบแชมป์ให้กับเลสเตอร์ไปซะอย่างนั้น

การแข่งขันแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

ปัจจัยสุดท้ายที่อาจจะส่งผลก็คือ เกมระดับนานาชาติช่วงเดือนมกราคม อย่างเกมแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพที่ทีมจะต้องเสียแกนหลักไปพร้อมกันทีเดียวสองคนคือ มาเน่ และ โจเอล มาติปที่ต้องไปลงให้กับทีมชาติของตัวเอง น่าสนใจว่าตอนนั้นลิเวอร์พูลจะทำอย่างไร แต่ถ้าหากผ่านสามข้อนี้ไปได้ เชื่อว่าแชมป์ลีคที่รอมานาน คงสมหวังกันสักที